Bitcoin บิตคอยน์ เหรียญบิตคอยน์ คืออะไร
สำหรับคนที่เพิ่งสนใจ Bitcoin บิตคอยน์ หรือ เหรียญบิตคอยน์ อาจจะสงสัยว่า จริง ๆ แล้วมันคืออะไร หน้าตามันเป็นยังไง เหมือนเหรียญบาท เหรียญสิบบาทเรามั๊ย มันเล่นยังไง มันทำเงินได้หรือเปล่า ในบล็อกนี้เราจะมาทำความเข้าใจเบื้องต้นแบบง่าย ๆ กันครับ 😊
อันดับแรก มาเริ่มต้นจากหน้าตามันก่อนครับ
บิตคอยน์นั้นไม่ได้มีหน้าตาเป็นเหรียญครับ แต่จริง ๆ แล้วมันเป็นเพียง สกุลเงิน เช่นเดียวกับ บาท ดอลลาร์ เยน ที่ทำการบันทึกลงไปในสมุดบัญชีธนาคาร แต่ไม่สามารถถอนออกมาถือโชว์ หรือ จับต้องได้
ในโลกของบิตคอยน์เราเรียกสมุดบัญชีธนาคารนี้ว่า “กระเป๋าเงินบิตคอยน์ (Bitcoin Wallet)” และเรียกเลขบัญชีธนาคารของสมุดเล่มนี้ว่า “ที่อยู่กระเป๋าเงินบิตคอยน์ (Bitcoin Wallet Address)”
วิธีการรับและโอนบิตคอยน์เข้าออกก็จะใช้ “ที่อยู่กระเป๋าเงินบิตคอยน์” นี่แหละครับเป็นตัวอ้างอิงปลายทางที่จะโอนไป
กระเป๋าเงินบิตคอยน์ เปิดที่ไหน สร้างยังไง ใคร ๆ ก็เปิดได้ใช่ไหม
ใคร ๆ ก็สามารถมี กระเป๋าเงินบิตคอยน์ ได้ครับ ไม่มีข้อจำกัดใด ๆ ทั้งสิ้น และ สามารถมีได้มาก 1 กระเป๋าครับ
กระเป๋าเงินบิตคอยน์มีทั้งแบบฟรี แบบไม่ฟรี แบบที่อยู่ในคอมพิวเตอร์ แบบที่อยู่ในมือถือ แบบที่เป็นบริการออนไลน์ แบบที่อยู่ในรูปทรงของแฟลชไดรฟ์ หรือ ทัมบ์ไดรฟ์
ซึ่งแต่ละแบบก็จะมีทั้งข้อดี ข้อเสีย แตกต่างกันไป ทั้งในแง่ของความสะดวกสบายในการใช้งานและความปลอดภัย
สำหรับคนที่เพิ่งเข้ามาในโลกของบิตคอยน์ ผมแนะนำให้ใช้แบบบริการออนไลน์ที่แถมมาจากการสมัครเข้าซื้อขายในตลาดครับ
แล้วมันเล่นยังไง ทำไมมันถึงทำเงินได้
การหาเงินจากบิตคอยน์นั้นเท่าที่ผมทราบในปัจจุบันทำได้อยู่ 3 ทางครับ (ใครมีข้อมูลมากกว่านี้แนะนำกันได้ครับ)
1. เก็งกำไร ซื้อให้ถูก ขายให้แพง
สำหรับสายเก็งกำไร ให้นึกว่าบิตคอยน์เหมือนทองคำครับ แตกต่างกันที่ราคาของมันจะขึ้นลงอยู่ตลอด ไม่มีวันหยุด ในวันนึงสามารถขึ้นลงได้หลายรอบ
การซื้อขายบิตคอยน์สามารถทำได้ทั้งแบบผ่านคนด้วยกันเอง (พูดคุยเจรจากัน => จ่ายเงิน => โอนบิตคอยน์ให้) หรือ ผ่านตลาด (Exchange)
โดยแบบที่นิยมและแนะนำที่สุดคือการซื้อขายผ่านตลาดครับ เพราะสะดวก ประหยัดเวลา ปลอดภัยกว่า ไม่ต้องหาพ่อค้าหรือลูกค้าเอง สามารถกดซื้อขายผ่านคอมพิวเตอร์หรือมือถือได้ตลอดเวลา มีกระเป๋าเงินบิตคอยน์ให้ใช้
ตลาดสำหรับแลกเปลี่ยนซื้อขายบิตคอยน์มีอยู่หลายเจ้าครับ แต่ละเจ้าก็จะมีราคาซื้อขาย ณ ช่วงเวลานึงไม่เท่ากัน
ณ ขณะที่เขียนบทความนี้ ในประเทศไทย ตลาดที่ได้รับการรับรองโดย กลต. มีอยู่ทั้งหมด 7 แห่งครับ แต่ที่ได้รับความนิยมที่สุดมีอยู่ 2 แห่งคือ บิทคับ (Bitkub) และ ซิปเม็กซ์ (Zipmex)
2. ฝากประจำ รอรับดอกเบี้ย
บางตลาดเช่นซิปเม็กซ์ จะมีบริการคล้าย ๆ กับธนาคารคือการรับฝากประจำ โดยเราจากฝากบิตคอยน์ไว้ที่เค้าโดยห้ามถอนเป็นระยะเวลานึง
ในระหว่างที่ฝาก ทางซิปเม็กซ์จะจ่ายดอกเบี้ยให้เราเป็นรายวันครับ โดยดอกเบี้ยที่ได้มาเราสามารถเอาไปฝากประจำต่อเพื่อให้ได้ดอกเบี้ยต่อวันมากขึ้น หรือ จะนำไปขายต่อในตลาดทันทีก็ได้ครับ
3. ปล่อยกู้ รอรับดอกเบี้ย
บางตลาด/บางระบบ เราสามารถนำบิตคอยน์ที่เรามีไปปล่อยกู้เพื่อเก็บดอกเบี้ยได้ครับ โดยหลักการก็จะคล้าย ๆ กับการฝากประจำแต่แตกต่างตรงที่จะมีขั้นตอนเยอะกว่า มีความเสี่ยงมากกว่า แต่ก็ได้ดอกเบี้ยเยอะกว่า
ณ ขณะที่เขียนบทความนี้ ในประเทศไทยยังไม่มีระบบปล่อยกู้บิตคอยน์ที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องครับ
เห็นบิตคอยน์ราคาเป็นล้าน ๆ ซื้อไม่ไหวหรอก
จริงอยู่ครับที่ 1 บิตคอยน์มีราคาแพงมาก (ขณะที่เขียนบทความราคาเกือบ 2 ล้านบาท) แต่การซื้อขายนั้นเราไม่จำเป็นต้องซื้อขายเต็มเหรียญครับ เราสามารถซื้อขายเสี้ยวหนึ่งของเหรียญได้ (ลองนึกถึงขนมเค้กครับ 🎂 เค้ก 1 ก้อนสามารถตัดแบ่งขายเป็นหลาย ๆ ชิ้น 🍰)
โดยหน่วยที่เล็กที่สุดมีขนาด 0.00000001 ซึ่งมีราคาเท่ากับ (2ล้านบาท x 0.00000001) = 0.02 บาทเท่านั้น (ไม่ถึงบาทก็เป็นเจ้าของบิตคอยน์ได้)
ที่นี้ก็แล้วแต่ตลาด/ระบบ ที่เราต้องการเข้าใช้บริการเลยครับ ว่าเค้ากำหนดขั้นต่ำและค่าธรรมเนียมไว้เท่าไหร่ เช่น ตลาดบิทคับกำหนดไว้ว่าต้องซื้อขั้นต่ำ 10 บาท ค่าธรรมเนียมในการซื้อขายบิตคอยน์ 0.25% ของเหรียญ ค่าธรรมเนียมในการถอนเงิน 20 บาท เป็นต้น
จากการคำนวณแล้ว ผมแนะนำให้เริ่มต้นที่ไม่น้อยกว่า 1,000 บาทครับ เพราะถ้าน้อยกว่านี้มีโอกาสขาดทุนจากค่าธรรมเนียมได้ครับ
เริ่มสนใจแล้ว มีข้อควรระวังอะไรมั๊ย
มีครับ ก่อนเริ่มลงทุนในบิตคอยน์มีข้อควรระวังหลัก ๆ อยู่ 3 อย่างครับ
1. ไม่มีคนช่วยเหลือ ต้องดูแลตัวเอง
ในโลกของบิตคอยน์นั้นทุกคนต้องดูแลตัวเองครับ เช่นหากกระเป๋าเงินบิตคอยน์เสียหาย ลืมรหัสผ่าน โอนบิตคอยน์ไปให้ผิดคน ความผิดพลาดจากโปรแกรมที่ใช้ ฯลฯ หากสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น คุณแทบจะไม่สามารถแก้ไขอะไรได้เลยครับ ทำได้แค่เช็ดน้ำตา 😭 ทิ้งมันไป แล้วเริ่มใหม่
เพราะฉะนั้น ควรศึกษา ทดลองให้เข้าใจวิธีการใช้งาน และ ตรวจสอบทุกอย่างก่อนทำธุรกรรมเสมอครับ
2. ระวังโดนโกง หลอกลวง ต้มตุ๋น
นอกจากนี้ เนื่องจากบิตคอยน์เป็นของใหม่ มีคนสนใจมาก มีการโอ้อวดกำไรกันเยอะแยะ จึงทำให้เกิดการนำชื่อบิตคอยน์ไปโกง ไปทำธุรกิจหลองลวงกันเยอะมาก หากจู่ ๆ มีใครเดินมาชวนคุณไปลงทุนบิตคอยน์ ให้คิดไว้ก่อนเลยครับว่ามาโกงแน่ ๆ อย่าหลงเชื่อครับ
อีกกรณีหลอกลวงที่มีบ่อย ๆ คือแกล้งเป็นเจ้าหน้าที่ของตลาดมาขอรหัสผ่าน บอกให้โอนบิตคอยน์ไปยืนยันตัวตน ฯลฯ ถ้าเจอไม่ต้องทนฟัง รีบแจ้งตำรวจจับให้ไวครับ
3. ราคาวิ่งขึ้นลงแรง เหตุผลมาทีหลังเสมอ ไม่มีวันหยุด
ความเสี่ยงในเรื่องความผันผวนของราคาก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่มองข้ามไม่ได้ครับ ก่อนนอนได้กำไร ตื่นเช้ามาขาดทุนก็มีให้เห็นเยอะครับ ควรจะกำหนดจุดเข้าซื้อและจุดขายไว้ให้ชัด ตั้งราคาขายทิ้งไว้เสมอหากไม่ได้เฝ้าหน้าจอ
ได้กำไรนิดหน่อย 💸 ยังไงก็ดีกว่าขาดทุนครับ
สรุปปิดท้าย
การลงทุนในบิตคอยน์เป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงครับ ราคาขึ้นลงแรงมากในแต่ละรอบ ต้องมีการบริหารจัดการที่เคร่งครัด จำกัดการขาดทุนให้น้อยที่สุด
ควรแบ่งเวลาพัก แบ่งเวลาดูตลาดให้ดี ไม่งั้นสุขภาพจะเสียได้ครับ เพราะตลาดเปิดตลอด 24ชม. ไม่มีวันหยุด
เราต้องหมั่นเรียนรู้เกี่ยวกับเครื่องมือและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องอยู่เสมอ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการลงทุนและความปลอดภัยให้กับบิตคอยน์ที่เรามี
อย่าเชื่อใจคนง่าย ใครชวนลงทุนให้ตรวจสอบให้รอบครอบ การจะเข้าซื้อหรือขายเป็นสิทธิของเรา ฟังได้แต่ต้องคิดวิเคราะห์ตาม
หากมีข้อสงสัย/แนะนำ ติดต่อพูดคุยกันได้ทั้งผ่านอีเมล [email protected] หรือที่ Facebook คอยน์น้อยแต่คอยน์นะ ได้ครับ ขอบคุณครับ
สนับสนุนบทความ
สำหรับคนที่อ่านแล้วสนใจอยากเริ่มต้นลงทุน สามารถกดสมัครเข้าใช้ตลาดผ่านลิ้งค์ที่แปะนี้ได้เลยนะครับ
- ซิปเม็กซ์ (Zipmex) https://trade.zipmex.com/th/accounts/sign-up?aff=B4WPumRMb8 หรือ
- บิทคับ (Bitkub) https://www.bitkub.com/signup?ref=1640430
เพราะผมและคุณผู้อ่านจะได้ค่าขนมเล็กน้อยจากการเชิญชวนสมัครใช้งานครับ ❤️